“ช่วงนี้นักท่องเที่ยวจะนิยมขึ้นเหนือไปสัมผัสอากาศหนาว และหลายคนก็จะถือโอกาส รับประทานอาหารประจำถิ่นอย่าง “ข้าวซอย” ให้จุใจ อย่างไรก็ตาม ข้าวซอยนี่ไม่จำเป็นว่าจะต้องขายอยู่ทางเหนือเท่านั้น ขอเพียงมีสูตรเด็ดเคล็ดอร่อย ก็ทำขายในพื้นที่ภาคอื่น ๆ ได้ อย่างที่ทีม “ช่องทางทำกิน” จะนำเสนอในวันนี้...
ภัคพงศ์ พึ่งกัน ปัจจุบันเปิดร้านอาหารชื่อ “รสมือแม่” อยู่ในกรุงเทพฯ เจ้าตัวบอกว่า เดิมเคยเปิดร้านขายอาหารเหนืออยู่ที่เชียงใหม่ ภายหลังต้องหยุดเพราะเข้ามาทำงานเป็นสัตวแพทย์อยู่ในกรุงเทพฯ พอมาอยู่ที่กรุงเทพฯก็เห็นว่าอาหารเหนือนั้นหากินยาก จึงคิดจะเปิดร้านขายอาหารเหนือ และได้ขอให้คุณแม่ซึ่งมีประสบการณ์ในการทำอาหารเหนือมานานลงมาอยู่ที่กรุงเทพฯ เพื่อช่วยในเรื่องนี้
ร้านอาหารเหนือที่เปิดใหม่นี้ก็ใช้ชื่อร้านว่า “รสมือแม่” ซึ่งเป็นชื่อเดิมที่เคยเปิดอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ จะเน้นให้คนกรุงเทพฯได้รู้ถึงรสชาติของอาหารเหนือที่แท้จริง และให้คนที่ชอบได้กินกันบ่อยขึ้น ที่สำคัญอาหารที่ร้านนี้ทุกเมนูจะไม่ใส่ผงชูรส โดยที่ร้านจะมีสโลแกนว่า “พ่อแม่ใส่ใจแทนการใส่ผงชูรส”
สำหรับอาหารเหนือที่ขึ้นชื่ออย่าง “ข้าวซอย” และ “น้ำเงี้ยว” เป็นเมนูที่ทำไม่ยาก แต่อาจจะมีขั้นตอนการทำที่เยอะหน่อย ซึ่งความอร่อยนั้นอยู่ที่ “พริกแกง” เพราะฉะนั้นพริกแกงที่ร้านนี้ใช้ทำทั้งสองเมนู จะทำขึ้นเอง ไม่ซื้อสำเร็จรูป และที่สำคัญข้าวซอยและน้ำเงี้ยวจะต้องทำใหม่ ๆ ทุกวัน จะทำพอดีขายวันต่อวัน
วัตถุดิบที่ใช้ในการทำพริกแกงข้าวซอย ตามสูตรของร้านนี้มีดังนี้... พริกแห้ง 2 ขีด, กระเทียม 3 ขีด, หอมแดง 3 ขีด, ข่า 2 ขีด, ตะไคร้ 2 ขีด, ขิง 1 ขีด, กะปิ 1.5 ขีด, เม็ดผักชียี่หร่า 1/2 ขีด, ผง กะหรี่ 2 ช้อนโต๊ะ, ผงขมิ้น 2 ช้อนโต๊ะ, เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ
จากสูตรนี้สามารถทำพริกแกงได้ประมาณ 1 กิโลกรัม
วิธีการทำพริกแกง เริ่มจากนำวัตถุดิบทุกอย่างมาทำการปั่นให้ละเอียด โดยแยกปั่นแต่ละอย่าง จากนั้นก็นำวัตถุดิบทุกอย่างที่ปั่นละเอียดแล้วมาเทใส่รวมกันในครก ทำการโขลกให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน เท่านี้ก็จะได้พริกแกงพร้อมสำหรับทำข้าวซอย โดยพริกแกงข้าวซอยจะออกทางหอมกลิ่นผงกะหรี่
เมื่อได้พริกแกงก็มาถึงวิธีทำ “น้ำแกงข้าวซอย” เริ่มจากนำหัวกะทิใส่กระทะตั้งไฟปานกลาง ทำการเคี่ยวให้หัวกะทิแตกมัน จากนั้นก็นำพริกแกงที่ทำเตรียมไว้ใส่ลงไปผัดรวมกับหัวกะทิ พอเริ่มหอมก็ให้นำเนื้อวัวหรือเนื้อไก่ใส่ลงไปผัดด้วยประมาณ 15 นาที
เนื้อวัวที่ใช้ทำควรจะใช้เนื้อส่วนน่องลาย เพราะเป็นเนื้อส่วนที่มีเอ็นติดแทรกอยู่ในเนื้อ เวลาทำออกมาจะอร่อยมาก ส่วนถ้าเป็นเนื้อไก่นั้นจะใช้เนื้อส่วนน่องมาทำ โดยเลือกใช้น่องที่มีขนาด 8-9 น่องต่อกิโลกรัม
ขั้นตอนต่อไป นำหางกะทิใส่หม้อตั้งไฟอ่อน ๆ ใส่เกลือและน้ำตาลทรายลงไปเล็กน้อย พอกะทิเดือดก็นำเนื้อหรือไก่ที่ผัดกับพริกแกงใส่ลงไปในหม้อ จากนั้นก็ตั้งไฟเคี่ยวไปเรื่อย ๆ
ถ้าเป็นเนื้อจะใช้เวลาในการเคี่ยวเป็นชั่วโมงเพื่อให้เนื้อเปื่อยนุ่ม แต่ถ้าเป็นน่องไก่จะใช้เวลาในการเคี่ยวประมาณ 1/2 ชั่วโมงเท่านั้น เท่านี้ก็จะได้น้ำแกงสำหรับใส่เส้นข้าวซอย
สำหรับการเตรียม “เส้นข้าวซอย” นั้น ก็แค่ตั้งน้ำให้เดือดแล้วนำเส้นลงลวกให้เส้นนิ่ม ใส่ชาม ใส่น้ำแกงที่เตรียมไว้ลงไป แล้วก็จะใส่เส้นบะหมี่ที่ทอดกรอบอีกส่วนหนึ่งด้วย แต่เส้นข้าวซอยนั้นถ้าจะให้ได้รสชาติข้าวซอยเมืองเหนือแท้ ๆ จะต้องใช้เส้นข้าวซอยโดยเฉพาะ ซึ่งทางร้านนี้จะมีแหล่งสั่งซื้อจากจังหวัดเชียงใหม่
“ข้าวซอย” นั้นต้องเสิร์ฟคู่กับเครื่องเคียง อย่างผักกาดดองหั่นเป็นชิ้น, หอมแดงหั่นเป็นชิ้น และมะนาวหั่นซีก
หากใช้พริกแกงประมาณ 1 กิโลกรัม ต่อเนื้อวัวหรือน่องไก่ 5 กิโลกรัม และกะทิ 4 กิโลกรัม จะสามารถทำข้าวซอยได้ประมาณ 45 ชาม ราคาขายของร้าน “รสมือแม่” อยู่ที่ชามละ 40 บาท
ภัคพงศ์ยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับ “น้ำเงี้ยว” ด้วยว่า สำหรับพริกแกงที่ใช้ทำน้ำเงี้ยวก็จะใช้วัตถุดิบเหมือนพริกแกงข้าวซอย เพียงแต่พริกแกงของน้ำเงี้ยวนั้นไม่ต้องใส่ขิงและผงกะหรี่ ส่วนวิธีการทำก็เหมือนกัน
การทำน้ำเงี้ยว เริ่มจากนำพริกแกงมาผัดกับน้ำมันให้พอหอม จากนั้นก็ใส่หมูลงไปผัดให้พอมีกลิ่นหอม ทำการตั้งน้ำต้มกระดูกหมู พอเดือดก็ใส่หมูที่ผัดกับพริกแกงลงไปในหม้อ ต้มไปเรื่อย ๆ ใส่เลือดไก่และมะเขือเทศลงไป ปรุงรสตามต้องการ ก็จะได้น้ำเงี้ยวสำหรับราดเป็น “ขนมจีนน้ำเงี้ยว” เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงอย่าง ผักกาดดองหั่นฝอย, กะหล่ำปลีหั่นฝอย และพริกแห้งทอด
นอกจากข้าวซอยและน้ำเงี้ยวแล้ว ร้านรสมือแม่ยังมีอาหารเหนืออีกหลายเมนู อาทิ น้ำพริกอ่อง, ไส้อั่ว, แกงฮังเล, แกงอ่อม, แกงแค ฯลฯ และยังมีเมนู “สเต๊ก” ที่ลูกค้าส่วนใหญ่ที่ไปที่ร้านนี้มักจะสั่งทานกัน
ใครสนใจอาหารเหนือ “ร้านรสมือแม่” ร้านนี้อยู่ในซอยชินเขต 2/40 หลังมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เข้าทางถนนวิภาวดีรังสิตตรงนอร์ท ปาร์คก็ได้ เปิดทุกวัน 10.00-22.00 น. สอบถามเส้นทาง โทร. 08-6378-9454 08-6378-9454 ซึ่งร้านนี้ก็พิสูจน์กับ “ช่องทางทำกิน” ว่าอาหารเหนือ ไม่ต้องขายที่เมืองเหนือก็ได้ !!.
บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์ : รายงาน
ขอบคุณที่มา เดลินิวส์
ภัคพงศ์ พึ่งกัน ปัจจุบันเปิดร้านอาหารชื่อ “รสมือแม่” อยู่ในกรุงเทพฯ เจ้าตัวบอกว่า เดิมเคยเปิดร้านขายอาหารเหนืออยู่ที่เชียงใหม่ ภายหลังต้องหยุดเพราะเข้ามาทำงานเป็นสัตวแพทย์อยู่ในกรุงเทพฯ พอมาอยู่ที่กรุงเทพฯก็เห็นว่าอาหารเหนือนั้นหากินยาก จึงคิดจะเปิดร้านขายอาหารเหนือ และได้ขอให้คุณแม่ซึ่งมีประสบการณ์ในการทำอาหารเหนือมานานลงมาอยู่ที่กรุงเทพฯ เพื่อช่วยในเรื่องนี้
ร้านอาหารเหนือที่เปิดใหม่นี้ก็ใช้ชื่อร้านว่า “รสมือแม่” ซึ่งเป็นชื่อเดิมที่เคยเปิดอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ จะเน้นให้คนกรุงเทพฯได้รู้ถึงรสชาติของอาหารเหนือที่แท้จริง และให้คนที่ชอบได้กินกันบ่อยขึ้น ที่สำคัญอาหารที่ร้านนี้ทุกเมนูจะไม่ใส่ผงชูรส โดยที่ร้านจะมีสโลแกนว่า “พ่อแม่ใส่ใจแทนการใส่ผงชูรส”
สำหรับอาหารเหนือที่ขึ้นชื่ออย่าง “ข้าวซอย” และ “น้ำเงี้ยว” เป็นเมนูที่ทำไม่ยาก แต่อาจจะมีขั้นตอนการทำที่เยอะหน่อย ซึ่งความอร่อยนั้นอยู่ที่ “พริกแกง” เพราะฉะนั้นพริกแกงที่ร้านนี้ใช้ทำทั้งสองเมนู จะทำขึ้นเอง ไม่ซื้อสำเร็จรูป และที่สำคัญข้าวซอยและน้ำเงี้ยวจะต้องทำใหม่ ๆ ทุกวัน จะทำพอดีขายวันต่อวัน
วัตถุดิบที่ใช้ในการทำพริกแกงข้าวซอย ตามสูตรของร้านนี้มีดังนี้... พริกแห้ง 2 ขีด, กระเทียม 3 ขีด, หอมแดง 3 ขีด, ข่า 2 ขีด, ตะไคร้ 2 ขีด, ขิง 1 ขีด, กะปิ 1.5 ขีด, เม็ดผักชียี่หร่า 1/2 ขีด, ผง กะหรี่ 2 ช้อนโต๊ะ, ผงขมิ้น 2 ช้อนโต๊ะ, เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ
จากสูตรนี้สามารถทำพริกแกงได้ประมาณ 1 กิโลกรัม
วิธีการทำพริกแกง เริ่มจากนำวัตถุดิบทุกอย่างมาทำการปั่นให้ละเอียด โดยแยกปั่นแต่ละอย่าง จากนั้นก็นำวัตถุดิบทุกอย่างที่ปั่นละเอียดแล้วมาเทใส่รวมกันในครก ทำการโขลกให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน เท่านี้ก็จะได้พริกแกงพร้อมสำหรับทำข้าวซอย โดยพริกแกงข้าวซอยจะออกทางหอมกลิ่นผงกะหรี่
เมื่อได้พริกแกงก็มาถึงวิธีทำ “น้ำแกงข้าวซอย” เริ่มจากนำหัวกะทิใส่กระทะตั้งไฟปานกลาง ทำการเคี่ยวให้หัวกะทิแตกมัน จากนั้นก็นำพริกแกงที่ทำเตรียมไว้ใส่ลงไปผัดรวมกับหัวกะทิ พอเริ่มหอมก็ให้นำเนื้อวัวหรือเนื้อไก่ใส่ลงไปผัดด้วยประมาณ 15 นาที
เนื้อวัวที่ใช้ทำควรจะใช้เนื้อส่วนน่องลาย เพราะเป็นเนื้อส่วนที่มีเอ็นติดแทรกอยู่ในเนื้อ เวลาทำออกมาจะอร่อยมาก ส่วนถ้าเป็นเนื้อไก่นั้นจะใช้เนื้อส่วนน่องมาทำ โดยเลือกใช้น่องที่มีขนาด 8-9 น่องต่อกิโลกรัม
ขั้นตอนต่อไป นำหางกะทิใส่หม้อตั้งไฟอ่อน ๆ ใส่เกลือและน้ำตาลทรายลงไปเล็กน้อย พอกะทิเดือดก็นำเนื้อหรือไก่ที่ผัดกับพริกแกงใส่ลงไปในหม้อ จากนั้นก็ตั้งไฟเคี่ยวไปเรื่อย ๆ
ถ้าเป็นเนื้อจะใช้เวลาในการเคี่ยวเป็นชั่วโมงเพื่อให้เนื้อเปื่อยนุ่ม แต่ถ้าเป็นน่องไก่จะใช้เวลาในการเคี่ยวประมาณ 1/2 ชั่วโมงเท่านั้น เท่านี้ก็จะได้น้ำแกงสำหรับใส่เส้นข้าวซอย
สำหรับการเตรียม “เส้นข้าวซอย” นั้น ก็แค่ตั้งน้ำให้เดือดแล้วนำเส้นลงลวกให้เส้นนิ่ม ใส่ชาม ใส่น้ำแกงที่เตรียมไว้ลงไป แล้วก็จะใส่เส้นบะหมี่ที่ทอดกรอบอีกส่วนหนึ่งด้วย แต่เส้นข้าวซอยนั้นถ้าจะให้ได้รสชาติข้าวซอยเมืองเหนือแท้ ๆ จะต้องใช้เส้นข้าวซอยโดยเฉพาะ ซึ่งทางร้านนี้จะมีแหล่งสั่งซื้อจากจังหวัดเชียงใหม่
“ข้าวซอย” นั้นต้องเสิร์ฟคู่กับเครื่องเคียง อย่างผักกาดดองหั่นเป็นชิ้น, หอมแดงหั่นเป็นชิ้น และมะนาวหั่นซีก
หากใช้พริกแกงประมาณ 1 กิโลกรัม ต่อเนื้อวัวหรือน่องไก่ 5 กิโลกรัม และกะทิ 4 กิโลกรัม จะสามารถทำข้าวซอยได้ประมาณ 45 ชาม ราคาขายของร้าน “รสมือแม่” อยู่ที่ชามละ 40 บาท
ภัคพงศ์ยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับ “น้ำเงี้ยว” ด้วยว่า สำหรับพริกแกงที่ใช้ทำน้ำเงี้ยวก็จะใช้วัตถุดิบเหมือนพริกแกงข้าวซอย เพียงแต่พริกแกงของน้ำเงี้ยวนั้นไม่ต้องใส่ขิงและผงกะหรี่ ส่วนวิธีการทำก็เหมือนกัน
การทำน้ำเงี้ยว เริ่มจากนำพริกแกงมาผัดกับน้ำมันให้พอหอม จากนั้นก็ใส่หมูลงไปผัดให้พอมีกลิ่นหอม ทำการตั้งน้ำต้มกระดูกหมู พอเดือดก็ใส่หมูที่ผัดกับพริกแกงลงไปในหม้อ ต้มไปเรื่อย ๆ ใส่เลือดไก่และมะเขือเทศลงไป ปรุงรสตามต้องการ ก็จะได้น้ำเงี้ยวสำหรับราดเป็น “ขนมจีนน้ำเงี้ยว” เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงอย่าง ผักกาดดองหั่นฝอย, กะหล่ำปลีหั่นฝอย และพริกแห้งทอด
นอกจากข้าวซอยและน้ำเงี้ยวแล้ว ร้านรสมือแม่ยังมีอาหารเหนืออีกหลายเมนู อาทิ น้ำพริกอ่อง, ไส้อั่ว, แกงฮังเล, แกงอ่อม, แกงแค ฯลฯ และยังมีเมนู “สเต๊ก” ที่ลูกค้าส่วนใหญ่ที่ไปที่ร้านนี้มักจะสั่งทานกัน
ใครสนใจอาหารเหนือ “ร้านรสมือแม่” ร้านนี้อยู่ในซอยชินเขต 2/40 หลังมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เข้าทางถนนวิภาวดีรังสิตตรงนอร์ท ปาร์คก็ได้ เปิดทุกวัน 10.00-22.00 น. สอบถามเส้นทาง โทร. 08-6378-9454 08-6378-9454 ซึ่งร้านนี้ก็พิสูจน์กับ “ช่องทางทำกิน” ว่าอาหารเหนือ ไม่ต้องขายที่เมืองเหนือก็ได้ !!.
บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์ : รายงาน
ขอบคุณที่มา เดลินิวส์