บทความที่ได้รับความนิยม

อาชีพนวดแผนไทย ทำเงินรายได้เสริม อีกหนึ่งอาชีพทำเงินของคนไทย

การนวดแผนไทย นวดแผนโบราณซึ่งถือเป็นศาสตร์และศิลป์ช่วยในเรื่องสุขภาพของคนไทย เช่น นวดฝ่าเท้า,นวดจับเส้น,นวดประคบ,นวดไมเกรน,นวดน้ำมัน ฯลฯ ส่วนมากเป็นการนวดเพื่อผ่อนคลาย และนวดคลายเส้นเพื่อบำบัดอาการปวดเมื่อยเฉพาะจุด


การนวดแผนไทย นวดแผนโบราณ

จะเห็นได้ว่าประเทศไทยเรานั้นเป็นประเทศที่มีนักท่องเทียวเดินทางเข้ามาเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เมื่อเดินทางไปตามสถานที่ท่องเทียวต่างๆ จะมีบริการนวดแผนไทย นวดแผนโบราณเปิดร้านต้อนรับ จนได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากนักท่องเที่ยว เพราะการนวดแผนไทยเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ และช่วยผ่อนคลายได้ดี เนื่องจากอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ

ในปัจจุบันการนวดแผนไทย ยังมีความต้องการของตลาดอยู่เป็นจำนวนมากโดยเฉพาะตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ นอกจากตลาดที่มีอยู่ในประเทศไทยเรายังไม่เพียงพออยู่แล้ว ขณะนี้ในแถบเอเชีย ในแถบทวีปยุโรป ซึ่งมีความต้องการผู้มีความสามารถในการนวดแผนไทยอยู่เป็นจำนวนมากเช่นกัน จึงทำให้มีค่าตอบแทนที่สูงสำหรับผู้ประกอบอาชีพนวดแผนไทย

ประเภทของการนวดแผนไทย นวดแผนโบราณ
นวดผ่อนคลาย
นวดจับเส้น
นวดประคบ
นวดฝ่าเท้า
นวดไมเกรน
นวดสลายไขมันอโรมา
นวดสปอร์ต
ลักษณะ วิธีการนวด
การกด
การบีบ
การทุบ/ตบ/สับ
การคลึง
การถู
การหมุน
การกลิ้ง
การสั่น/เขย่า
การบิด
การลั่นข้อต่อ
การยืดดัดตัว
การหยุดการไหลเวียนของเลือด
คุณสมบัติของผู้ประกอบอาชีพ
อาชีพนวดแผนไทย เป็นอาชีพงานด้านบริการ ผู้ที่มีความสนใจจะต้องเป็นผู้ที่มีใจรักในงานบริการ มีความอดทนสูง และมีสุขภาพพละกำลังมือที่แข็งแรง วุฒิการศึกษายังไม่มีความจำเป็นมากนัก อ่านออกเขียนได้ก็เป็นพอ

มีใจรักในงานบริการ
มีพละกำลังมือที่แข็งแรง เพราะต้องใช้กำลังในการกด การบีบ
มีความสนใจศาสตร์การนวด
มีความรู้ความเข้าใจศาสตร์การนวด
มีความอดทนสูง
วุฒิการศึกษาไม่มีความจำเป็นมากนัก
อื่นๆ
ผลตอบแทน
ผลตอบแทนของอาชีพนวดแผนไทย ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วนะค่ะว่า ในปัจจุบันมีสถานเปิดให้บริการด้านการนวดแผนไทยเกิดขึ้นมากมาย เพราะมีความต้องการของลูกค้าที่ต้องการเข้าใช้บริการมากขึ้น และที่สำคัญพนักงานนวดมีจำนวนไม่เพียงพอต่อการให้บริการ ดังนั้นค่าตอบแทนที่ได้ยังคงสูง ตามสถานที่ให้บริการ ยิ่งเป็นสถานที่ที่อยู่ในที่ท่องเทียวค่าแรงก็จะสูงตามไปด้วย

ค่าแรงจะคิดเป็นชั่วโมงขั้นต่ำอยู่ที่ชั่วโมงละ 50 – 300 บาทต่อชั่วโมง เป็นค่าแรงที่ได้รับจากทางผู้ประกอบการ ซึ่งจะกำหนดค่าแรงเป็นชั่วโมง

การนวดแผนไทยต่อครั้งลูกค้าจะจ่ายเงินทิปให้โดยตรงจะได้ครั้งละประมาณ 50 – 1,000 บาทต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของลูกค้า เงินทิปนี้จะได้ทุกครั้งเพราะเป็นเหมือนทำเนียมของการนวดแผนไทย และมีความเชื่อในเรื่องค่าครู

มีการประกันรายได้หากพนักงานไม่ได้ทำงาน จะมีเงินประกันให้อยู่ที่ 100 – 350 บาทต่อวัน โดยส่วนใหญ่แล้วจะได้รับเงินค่าจ้างเป็นรายวัน แต่เงินจะออกเป็นวิคประมาณ ทุกวันที 15 และ วันที่ 1 ของทุกเดือน

รายได้เฉลี่ย สำหรับผู้ประกอบอาชีพนวดแผนไทย ที่ทำอาชีพนี้อยู่ในประเทศไทยมีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 500 – 3,000 บาทต่อวัน ซึ่งมีรายได้สูงมากกว่าอาชีพอื่นๆอยู่มากพอสมควร
แหล่งความรู้เพิ่มเติม ศูนย์ฝึกอาชีพนวดแผนไทย
หากท่านมีความสนใจที่อยากจะประกอบอาชีพนวดแผนไทย หรือนวดแผนโบราณ ก่อนอื่นท่านจำเป็นต้องมีความรู้ในเรื่องศาสตร์การนวดก่อนเสมอจึงจะสามารถประกอบอาชีพนี้ได้ ดังนั้นท่านจำเป็นต้องศึกษาหาความรู้และลงมือปฏิบัติ

บางสถานประกอบการจะเปิดศูนย์ฝึกอบรมสอนการนวดให้แบบฟรีๆ แต่ต้องทำสัญญากันก่อน เช่น เมื่อเข้าฝึกอบรมท่านจะได้วิชาความรู้ และใบรับรองตามหลักสูตรที่ได้รับการฝึกอบรม แต่ท่านต้องอยู่ทำงานให้กับสถานที่ประกอบการนั้นๆ ตามจำนวนวันที่กำหนด ท่านจึงมีสิทธิ์ออกไปทำงานที่อื่นได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

ศูนย์ฝึกอบรมสอนการนวดที่เปิดให้บริการสอน ในประเทศไทยเรามีศูนย์ฝึกอบรมที่เปิดสอนอยู่เป็นจำนวนมาก อาทิเช่น ศูนย์ฝึกอบรมนวดวัดโพธิ์,กรมฝีมือแรงงาน,สถานประกอบการนวดแผนไทย,สถานพยาบาลที่เปิดอบรม,สารพัดช่าง,กรมพัฒนาฝีมือแรงงานประจำจังหวัด,กลุ่มแม่บ้าน ฯลฯ

สำหรับผู้ประกอบการ ที่ลงประกาศรับสมัครพนักงานใน ความคิดเห็น กรุณากรอกข้อมลูที่เป็นจริง และสำหรับผู้สนใจทำอาชีพนวดแผนไทย โปรดตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ ก่อนเข้าทำงาน หรือติดต่อหน่วยงานราชการสำนักงานจัดหางาน ของแต่ละจังหวัด
แนวทางพัฒนาต่อยอดอาชีพ
ทำงานเป็นพนักงานนวด
เป็นเจ้าของกิจการนวดแผนไทย สามารถเปิดร้าน เป็นธุรกิจ SMEs ส่วนตัวได้
เป็นผู้ประกอบธุรกิจสปา (SPA)

ไอเดียรวย "โคมไฟอะคริลิก" อีกหนึ่งงานอาชีพเสริม




สินค้าประเภทงานฝีมือ งานแฮนด์เมด งานประดิษฐ์ มีการแข่งขันกันสูงในตลาด ซึ่งเจ้าของงานจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพัฒนาคิดค้นสร้างสรรค์สินค้าให้ออกมาดูดีมีแบบฉบับของตัวเอง ต้องหาเอกลักษณ์ให้สินค้าของตนเองให้ได้มากที่สุด จึงจะได้รับการตอบรับที่ดี อย่างงาน “โคมไฟตั้งโต๊ะ” ที่ทำขึ้นจาก “อะคริลิก” แกะสลักเป็นลวดลายและรูปต่าง ๆ พร้อมทั้งมีแสงไฟจากหลอดแอลอีดี ทำให้เกิดแสงและสีสันสวยงาม... “โคมไฟอะคริลิกตั้งโต๊ะ” รูปแบบนี้ก็น่าพิจารณา...
     
อานนท์ บุญประเสริฐ เจ้าของผลงาน โคมไฟอะคริลิกตั้งโต๊ะ เล่าว่า ทำงานประจำเกี่ยวกับการออกแบบชิ้นส่วนรถยนต์ที่บริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งกับงานโคมไฟตั้งโต๊ะที่ทำจากอะคริลิกนั้นเป็นงานที่ทำเป็นอาชีพเสริม ใช้เวลาทำช่วงเย็นหลังเลิกงาน และทำในวันหยุด โดยงานโคมไฟนี้เพิ่งจะเริ่มทำมาได้ประมาณ 7-8 เดือน

งานโคมไฟนี้ได้ไอเดียมาจากการที่ได้มีโอกาสไปเห็นรถที่ทำเครื่องเสียงและมีการตีตู้ลำโพง ใช้แผ่นอะคริลิกที่มีลวดลายมาปิดแล้วมีไฟที่มีสีสันสวยงาม เมื่อได้เห็นก็เกิดไอเดียและคิดว่าน่าจะนำมาประยุกต์ทำเป็นชิ้นงานที่ใช้สำหรับตกแต่งบ้านได้ ประกอบกับช่วงนั้นก็กำลังมองหาอาชีพเสริมอยู่ จึงนำความคิดมาทดลองออกแบบและลองทำเป็นโคมไฟ

ในช่วงแรกที่ทดลองทำโคมไฟนั้นก็เคยพยายามหาวัสดุหลากหลายมาทำ ตอนแรกก็ใช้ไม้ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จเพราะเวลาแกะสลักแล้วไม้จะแตกหัก ใช้เวลาลองผิดลองถูกอยู่ประมาณ 3-4 เดือน ที่สุดก็สามารถหาวัสดุที่เหมาะในการทำได้ นั่นก็คือแผ่นอะคริลิก และก็เริ่มออกแบบรูปแบบลวดลาย และผลิตผลงานออกมาได้สำเร็จ



รูปแบบที่ทำออกมาตอนนี้ก็มีอยู่ประมาณ 15 แบบ

ตลาดแรกที่วางขายก็คือการลงขายผ่านอินเทอร์เน็ต เนื่องจากไม่มีหน้าร้าน และก็ทำงานประจำอยู่ด้วยจึงไม่มีเวลาที่จะนำผลงานไปวางขาย ซึ่งผลงานที่ทำออกมาขายนั้นก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าต่างประเทศเป็นอย่างดี โดยลูกค้าที่สั่งซื้อและสั่งทำส่วนใหญ่จะเอาไปตกแต่งร้านอาหาร

วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ทำโคมไฟอะคริลิกตั้งโต๊ะ หลัก ๆ ก็มี... เครื่องแกะสลัก, แผ่นอะคริลิก, แผ่นพลาสวูด (พีวีซีโฟม), สวิตช์ไฟ, แผงวงจรไฟฟ้า, หลอดไฟแอลอีดี ขนาด 5 มิลลิเมตร, ปืนยิงซิลิโคน และอุปกรณ์ช่างอื่น ๆ ทั่วไป

เครื่องแกะสลัก เป็นเครื่องที่ใช้แกะสลักไม้ แกะสลักอะคริลิก ซึ่งหาซื้อได้ในกรุงเทพฯที่ตลาดคลองถม ราคาเครื่องอยู่ที่ประมาณ 80,000 บาท ส่วนแผ่นอะคริลิกใช้ขนาดความหนา 6 มิลลิเมตร แผ่นขนาด 1x2 เมตร แผ่นละประมาณ 3,000 บาท ทำชิ้นงานได้ประมาณ 25 ชิ้น หาซื้อได้แถวย่านวงเวียน 22 แต่ถ้าสั่งซื้อจากโรงงานจะได้ราคาที่ถูกกว่า ซึ่งสำหรับค่าอุปกรณ์และวัตถุดิบทั้งหมดใช้เงินทุนเบื้องต้นประมาณ 100,000 บาท

ขั้นตอนการทำ เริ่มจาก... ออกแบบรูปหรือลวดลายที่ต้องการ หรือตามลูกค้าออร์เดอร์ ออกแบบลงบนเครื่องคอมพิวเตอร์ หลังจากที่ทำการออกแบบรูปแบบเสร็จแล้วก็ทำการตัดแผ่นอะคริลิกให้ได้ขนาดประมาณ 16x25 เซนติเมตร นำไปวางไว้บนเครื่องแกะสลัก โดยจะต้องใช้กระดาษกาวสองหน้ายึดติดแผ่นอะคริลิกกับเครื่องแกะสลักให้แน่นไม่ขยับเขยื้อน เพราะเวลาเครื่องแกะสลักทำการแกะลายแผ่นอะคริลิกจะได้ไม่เลื่อนจนทำให้แกะสลักไม่ได้ เมื่อเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็ทำการสั่งเครื่องแกะสลักให้ทำงานโดยสั่งผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ ใช้เวลาในการแกะลวดลายลงบนแผ่นอะคริลิกประมาณ 40 นาที
ในช่วงที่รอเครื่องแกะสลักแกะลวดลายลงแผ่นอะคริลิก ก็มาทำฐานรองเตรียมไว้ โดยการตัดแผ่นพลาสวูดให้เป็นรูปวงรี กว้าง 8 เซนติเมตร ยาว 30 เซนติเมตร จากนั้นทำการเจาะเซาะด้านล่างของฐานให้เว้าเข้าไป เจาะรูให้ได้ขนาดที่หลอดไฟแอลอีดี ใส่ได้ จำนวน 5 รู ไว้สำหรับใส่หลอดไฟแอลอีดี และวงจรไฟ ส่วนด้านบนของฐานรองให้เซาะเป็นร่องให้กว้างเท่ากับขนาดความหนาของแผ่นอะคริลิก ความยาวก็ตามรูปแบบที่ออกแบบไว้ เตรียมไว้สำหรับนำแผ่นอะคริลิกที่แกะสลักเสร็จแล้วมาเสียบประกอบ
เมื่อทำการเซาะร่องเสร็จแล้วก็ทำการประกอบหลอดไฟและต่อวงจรไฟฟ้า เมื่อทำการต่อวงจรไฟฟ้าเสร็จแล้วก็ให้ทดลองเปิดดูก่อนว่าใช้ได้หรือไม่ ถ้าใช้ได้ไฟติดก็ปิดฝาใต้ฐาน ใช้กาวซิลิโคนยึดให้แน่น พอแผ่นอะคริลิกแกะสลักลวดลายเสร็จก็นำแผ่นอะคริลิกมาประกอบใส่ไว้ด้านบน ใช้กาวซิลิโคนยึดติดให้แน่นหนากันหลุด เท่านี้ก็เรียบร้อย

การทำโคมไฟอะคริลิกตั้งโต๊ะนี้มีต้นทุนเฉพาะในส่วนค่าวัสดุ ยังไม่รวมค่าไฟ ค่าแรง อยู่ที่ประมาณ 400-500 บาทต่อชิ้น ซึ่งทางเจ้าของงานตั้งราคาขายราคาชิ้นละ 1,200 บาท
    
สนใจ “โคมไฟอะคริลิกตั้งโต๊ะ” ของอานนท์ เข้าไปดูตัวอย่างสินค้าได้ที่ http://www.thaiclassicsign.com/ และติดต่อสั่งออร์เดอร์ ติดต่อสอบถามทางโทรศัพท์ได้ที่ โทร. 08-9029-0887.
บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์ เรื่อง/สันติ มฤธนนท์ ภาพ

งานประดิษฐ์ "ตุ๊กตานกฮูก" ของใช้มีสไตล์...ไม่ตัน!!


งานมีดีไซน์-ความคิดสร้างสรรค์ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง! เป็นเรื่องที่ไม่เกินจริง ยิ่งปัจจุบันงานประดิษฐ์มีออกมาค่อนข้างหลากหลาย การแข่งขันจึงสูง ดังนั้น การรู้จักพลิกแพลงสร้างจุดขายก็ย่อมจำเป็น แต่ถ้าทำได้ก็ย่อมทำเงินได้ไม่ยากนัก อย่างเช่น ’ตุ๊กตานกฮูก“ งานฝีมือขายดีไซน์-มีสไตล์เฉพาะ ที่ทีม ’ช่องทางทำกิน“ จะนำเสนอในวันนี้...

บุญเกื้อ-สมถวิล เชิดพยัคฆ์ เจ้าของสินค้าในชื่อ โอเอซิสแฮนด์คราฟท์ (Oasis Handcrafts) ต่อยอดสินค้าจากแรงบันดาลใจในธุรกิจรับจัดสวน-ตกแต่งสวน ที่ทำอยู่เดิม จนออกมาเป็นสินค้าของตกแต่ง-ของใช้-ของประดับ ที่น่าสนใจ ด้วยรูปแบบตัวการ์ตูน “นกฮูก” หน้าตากวน ๆ โดยสมถวิลเล่าว่า เดิมทีต้องการผลิตเพื่อใช้ต่อยอดธุรกิจรับจัดสวนที่ทำอยู่ ความตั้งใจแรกเพียงผลิตเพื่อขายเป็นกระถางใส่ต้นไม้หรือใช้ทำเป็นโมบายแขวนต้นไม้เท่านั้น ต่อมามีคนสอบถามมามาก จึงคิดว่าน่าจะต่อยอดผลิตเป็นสินค้าอีกกลุ่มหนึ่งได้ จึงคิดรูปแบบจนออกมาอย่างที่เห็นในปัจจุบัน

“ทำไปทำมาคนถามเยอะ จึงเกิดความคิดว่าน่าจะพัฒนารูปแบบและเพิ่มประโยชน์การใช้งานได้ จนกลายเป็นสินค้าอย่างที่เห็น ปัจจุบันรูปแบบการใช้งานของสินค้านกฮูกนี้ ก็มีอาทิ กระบอกใส่ของ หมอนอิง หมอนรองนั่ง ป้ายปิดประตู พวงกุญแจ และ กรอบรูป ผลตอบรับก็ค่อนข้างดี เริ่มมีลูกค้าจดจำสินค้าได้มากขึ้น” เจ้าของสินค้ากล่าว

สมถวิลเล่าอีกว่า แม้ปัจจุบันสินค้าจะผลิตขึ้นและจำหน่ายมานานกว่า 1 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน อาศัยการนำไปฝากขายตามสถานที่ต่าง ๆ นำสินค้าไปออกร้านตามงานแสดงสินค้า และหลัก ๆ จะจำหน่ายสินค้าผ่านทางช่องทางเฟซบุ๊ก ในชื่อ www.facebook.com/OasisHandcrafts ซึ่งผลตอบรับที่ผ่านมาก็ถือว่าน่าพอใจ


“โชคดีที่ตอนเราคิดรูปแบบเป็นนกฮูกตอนแรก ๆ ในตลาดยังมีใครทำกันไม่มากนัก คนจึงจำสินค้าของเราได้แม่น ด้วยสไตล์และการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ สินค้าจึงมีชื่อเรียกว่านกฮูกจนติดปาก อีกทั้งลูกเล่นที่ใส่ลงไปในชิ้นงานในเรื่องประโยชน์ใช้สอยกับรูปแบบที่สะดุดตา ลูก ค้าส่วนใหญ่ก็จะชมว่าแปลก ไม่เหมือนใคร บางคนก็มีความเชื่อว่านกฮูกเป็นสัญลักษณ์มงคล ก็จะซื้อเพื่อนำไปใช้ตก แต่งบ้าน หรือตกแต่งรถก็ยังมี” สมถวิลกล่าว

สำหรับชิ้นงานนั้น ใช้วัสดุประกอบหลายชนิด อาทิ ผ้า หนังเทียม แผ่นโฟมอีวีเอ (EVA) โดยแผ่นโฟมอีวีเอนี้ เป็นแผ่นยางสังเคราะห์ชนิดหนึ่งและเป็นวัสดุสำคัญที่ถูกนำมาประยุกต์ได้หลากหลาย ข้อดีคือ นุ่ม ยืดหยุ่น น้ำหนักเบา ทั้งยังสกรีนหรือสามารถปั๊มเป็นลวดลายต่าง ๆ ได้ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นวัสดุที่หาซื้อได้ทั่วไปตามร้านเครื่องเขียนหรืองานประดิษฐ์

ทุนเบื้องต้น ใช้ประมาณ 15,000 บาท ส่วนทุนวัสดุอยู่ที่ประมาณ 50% ของราคาขาย ซึ่งเริ่มที่ชิ้นละ 195 บาท โดยวัสดุอุปกรณ์ก็มี เข็ม-ด้าย, กรรไกร, คัตเตอร์, กาวร้อน (กาวซิลิโคน), หนังเทียม, ผ้า, แผ่นโฟมอีวีเอ และวัสดุตกแต่ง

ขั้นตอนการทำ ยกตัวอย่างจะทำเป็น “กระบอกหุ้มหนังใส่ของ” เริ่มจากออกแบบขนาดและรูปแบบนกฮูกที่จะใช้ในการทำ โดยอาจเริ่มจากวาดภาพร่างลงบนกระดาษ หรือหากใครที่เก่งหรือมีความเชี่ยวชาญการใช้โปรแกรมออกแบบในเครื่องคอมพิวเตอร์ก็อาจออกแบบสำเร็จรูปบนนั้นได้เลย เมื่อได้แบบแล้วก็ทำการเลือกวัสดุที่จะใช้

การทำเป็นกระบอกหุ้มหนังสำหรับใส่ของ ก็นำกระบอกที่จะใช้มาหุ้มหนังและตกแต่ง ทำการวัดขนาด จากนั้นทำการตัดหนังเทียม เย็บขอบริมด้วยด้าย ต่อมาก็ทำการตัดแผ่นโฟมอีวีเอเพื่อทำเป็นส่วนประกอบของตัวนกฮูก เช่น หู, หัว, ขน หากต้องการลดขั้นตอนส่วนนี้อาจใช้วิธีส่งไปให้ร้านที่รับตัดให้ช่วยตัดตามขนาดที่ต้องการแทนก็ได้ ในส่วนของขนบนตัวนกนั้น มีขั้นตอนเพิ่มเข้ามานิดหน่อยคือ การสกรีนลวดลายลงไป จากนั้นยึดติดส่วนต่าง ๆ ลงไปบนกระบอกหนังด้วยกาวร้อนหรือกาวซิลิโคน ตกแต่งหน้าตาด้วยวัสดุตกแต่ง เป็นอันเสร็จขั้นตอน

“ขั้นตอนไม่ซับซ้อน แต่จำเป็นต้องใช้ความประณีตและความอดทน โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นลูกเล่นบนชิ้นงาน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ลูกค้าชอบหรือไม่ชอบสินค้า” เป็นคำแนะนำจากเจ้าของสินค้ารายนี้

และก่อนจากกัน ก็ยังมีคำแนะนำให้กับผู้สนใจทำอาชีพงานประดิษฐ์ด้วยว่า ต้องทำเพราะใจรัก เพราะงานประดิษฐ์นั้นต้องใช้เวลาและอดทน และอาชีพงานประดิษฐ์ก็จำเป็นต้องมีการวางแผนการทำธุรกิจไม่แพ้ธุรกิจอย่างอื่น หากมีแผนดี-มีความคิดสร้างสรรค์ ก็เชื่อว่าโอกาสที่จะทำเงิน หรือยึดทำเป็นอาชีพ ก็ยังเปิดกว้างอย่างแน่นอน...

ใครสนใจสินค้า ’ตุ๊กตานกฮูก“ ที่ทำเป็นของตกแต่งและของใช้   ต่าง ๆ ได้หลากหลาย ต้องการติดต่อเจ้าของสินค้า ก็ติดต่อได้ที่ โทร. 08-2486-2540, 08-1774-8740 หรือที่อีเมล oasishandcrafts@gmail.com หรือลองเข้าไปดูรูปแบบสินค้าได้ตามเฟซบุ๊กดังที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งนี่ก็เป็นอีกรูปแบบ ’ช่องทางทำกิน“ จากงานฝีมือที่มีสไตล์.

(ชมคลิปวิดีโอ ช่องทางทำกิน ได้ที่ www.dailynews.co.th)
ศิริโรจน์ ศิริแพทย์ เรื่อง / วรัญญู เหมือนเดช ภาพ

อาชีพเสริม สร้างรายได้ ‘พานขันหมาก’ ฝีมืออนุรักษ์ไทยเงินงาม



จากข้อมูลในเว็บไซต์ http://www.wedding.in.th ระบุไว้ว่า ประเพณีการยกขันหมากสู่ขอนั้นเป็นพิธีมงคลที่จัดขึ้นเพื่อเป็นการคารวะผู้ปกครองฝ่ายเจ้าสาว เป็นการบอกกล่าวขออนุญาตในการที่เจ้าบ่าวจะสู่ขอเจ้าสาวไปเป็นภรรยา และกับประวัติที่มาของ “พานขันหมาก” มีมาแต่สมัยสุโขทัย สมเด็จพระร่วงเจ้าทรงบัญญัติว่า ถ้าทำการรับแขกเป็นสนามใหญ่มีการอาวาห์มงคลหรือวิวาห์มงคลแล้ว ให้ร้อยดอกไม้เป็นรูปพานขันหมาก และให้เรียกว่า “พานขันหมาก”
  
ปัจจุบันการทำ “พานขันหมาก” สามารถทำเป็นอาชีพทำเงินได้ ถือเป็นอีกหนึ่งรูปแบบ “ช่องทางทำกิน”
  
เสกสรรค์ มะลิซ้อน หรือ อาท อายุ 25 ปี ซึ่งสร้างสรรค์ผลงาน “พานขันหมาก” เล่าว่า เป็นชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ ปัจจุบันเรียนหนังสืออยู่ที่มหาวิทยาลัยเปิดแห่งหนึ่ง และรับทำพานขันหมากไปด้วย ซึ่งเงินที่ได้ก็สามารถใช้เป็นทุนการศึกษาต่อโดยที่ไม่ต้องรบกวนพ่อแม่ผู้ปกครองอาทเล่าต่อไปว่า สมัยเรียนชั้นประถมได้เรียนทักษะวิชาการจากหนังสือความสามารถพิเศษ ในด้านการร้อยมาลัย งานใบตอง เมื่อโตขึ้นก็มีโอกาสได้ร่วมทำพานขันหมากกับคนเฒ่าคนแก่ตามที่ต่าง ๆ ที่มีการจัดงาน หรือบางทีไปร่วมงานแต่งงานก็จะดู จะแหวกดูพานขันหมาก ว่าเขาทำกันอย่างไรบ้าง? “การเรียนรู้ของผมคือฝึกด้วยตัวเอง ศึกษาเบื้องต้นจากอินเทอร์เน็ตบ้าง แล้วมาศึกษาการทำจริงจังตอนงานแต่งงานพี่สาวตัวเอง”  
      
พานขันหมากนี้ อาทบอกว่า เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนชาติใดในโลก เป็นงานที่ต้องใส่ใจมาก เพราะเป็นงานที่ต้องใช้ฝีมือและความประณีต ถือเป็นวัฒนธรรมตั้งแต่บรรพบุรุษ นอกจากนี้การทำยังเป็นการฝึกสมาธิชั้นเยี่ยมอีกด้วย
  
วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ทำพานขันหมาก หลัก ๆ ก็มี ใบตอง หรือหยวกกล้วย, ดอกไม้-ใบไม้ อาทิ ดอกรัก ดอกบานไม่รู้โรย ดอกบัว แกนดอกบัว ดาวเรือง ใบนาก ใบเงิน ใบทอง ใบพลู หมาก, หยวกกล้วย หรือโฟม, พานขนาดต่าง ๆ, ลวดเย็บกระดาษ, หมุดเข็ม, ลวด, ตะปู, เชือก, เข็ม-ด้าย และวัสดุประกอบอื่น ๆ ที่เหมาะสม
  
สำหรับขั้นตอนการทำพานขันหมาก เริ่มที่เตรียมพานขนาดตามต้องการ ตัดโฟมหรือหยวกกล้วยให้เป็นรูปวงกลม เท่ากับขนาดของความกว้างพาน     
ขั้นตอนต่อไปคือการทำ “คอม้า” รอบโฟมหรือหยวกกล้วย ด้วยการฉีกใบตองให้มีขนาดกว้าง 2 นิ้ว แล้วพับใบตองแต่ละด้านเข้ามาตรงกลางให้เป็นรูปสามเหลี่ยม แล้วพับสามเหลี่ยมแต่ละด้านเข้าหากัน พับแบบนี้ทีละชิ้น แล้วนำแต่ละชิ้นมาเย็บติดกันเป็นวงกลมให้ได้ขนาดเท่ากับโฟมหรือหยวกกล้วย แล้วนำไปติดรอบโฟมหรือหยวกกล้วย ปักติดด้วยหมุดเข็ม หรือใช้ลวดเย็บกระดาษเย็บติดก็ได้ เสร็จแล้วตัดใบตองส่วนที่ยาวออกไป
  
ต่อไปทำ “กลีบรอบ” ด้วยการฉีกใบตองให้มีขนาดกว้าง 1 นิ้ว แล้วพับใบตองแต่ละด้านเข้ามาตรงกลางให้มาเป็นรูปสามเหลี่ยม  แล้วพับใบตองด้านข้างของสามเหลี่ยมเข้ามาตรงกลาง พับทั้งสองข้าง ทำแบบนี้ทีละชิ้น แล้วนำไปเย็บติดบนคอม้าให้รอบ ทำให้ได้ 3 รอบ เรียงสับหว่างกันให้ดูสวยงาม และเป็นระเบียบ เสร็จแล้วตัดใบตองส่วนที่ยาวออกไป
  
ถัดมาเป็นการตกแต่งพานด้วยการติดดอกไม้ที่มีชื่อมงคล อย่างดอกบานไม่รู้โรย ดอกรัก ใช้หมุดเข็มปักเข้าไปตรงกลางของดอกไม้ทีละดอก แล้วนำไปติดรอบพาน เริ่มด้วยดอกบานไม่รู้โรย ตามด้วยดอกรัก   ติดให้รอบทีละชั้น

ส่วนการตกแต่งในตัวพานก็เช่นเดียวกัน ใช้ดอกบานไม่รู้โรย ดอกรัก แกนดอกบัว และดอกบัว วิธีการคือ ใช้หมุดเข็มปักเข้าไปตรงกลางของดอกไม้ทีละดอก แล้วนำไปปักในตัวพาน เริ่มด้วยดอกบานไม่รู้โรย ดอกรัก แกนดอกบัว ส่วนดอกบัวให้วางไว้ตรงกลางเพื่อความสมบูรณ์สวยงาม  และพานขันหมากจะต้องมีดอกดาวเรือง หมาก ใบพลู ใบเงิน ใบทอง ใบนาก ร่วมประดับด้วย
ปิดท้ายที่การทำ “กรวยครอบพานขันหมาก” ด้วยการฉีกใบตองกว้าง 3 นิ้ว พับครึ่งตามยาว แต่ให้เฉียงเล็กน้อย ทำทีละชิ้น ประมาณ 24 ชิ้น แล้วนำมาเย็บติดกันเป็นวงกลมด้วยลวดเย็บกระดาษ (ทั้งด้านล่างและด้านบน) ตัดใบตองส่วนบนออกเล็กน้อยเพื่อความสวยงาม นำไปครอบปิดพาน เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย  
ราคาพานขันหมากรูปแบบที่ว่ามานี้ อยู่ที่ประมาณ 1,000 บาท ถ้าเป็นชุด มี 5 พาน อาทิ พานขันหมากเอก, พานสินสอด, พานธูปเทียนแพ, พานเชิญขันหมาก ราคาชุดละ 4,500-5,000 บาท
                                      
ใครสนใจเรื่อง “พานขันหมาก” สนใจต้องการติดต่อกับ อาท-เสกสรรค์ มะลิซ้อน ก็ติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-5768-4014 หรือทางอีเมล Art.Art1234@hotmail.com หรือ okee123@hotmail.com และ http://www.facebook.com/okeeyakung ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งรูปแบบ “ช่องทางทำกิน” จากวิถีไทยโบราณ.

สุภารัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล / แสงจันทร์ สนั่นเอื้อ 
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ http://www.dailynews.co.th

ใช่พู่กันจีน ตวัดเพียงแค่ครั้งเดียวสร้างภาพมังกรได้


วาดภาพมังกรต้อนรับปี 2013 ด้วยการ 
ตวัดพู่กันเพียงแค่ครั้งเดียวโดยไม่ยกพู่กันเลย สุดยอดมากๆ

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม